พบกับเชฟดอกไม้วันนี้

เส้นทางสายอาหาร

บัตรกำนัล สำรองที่นั่ง

Thierry Drapeau: การเดินทางของอาหาร

Thierry Drapeau เชฟผู้เข้าสู่ทำเนียบเชฟระดับมิชลินสตาร์ในกรุงเทพ คือหัวหน้าเชฟของร้านอาหาร Signature Bangkok ที่ซึ่งเขาได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงที่สดใหม่ในอาหารฝรั่งเศสสมัยใหม่ในสถานที่ตั้งที่ผ่อนคลายบรรยากาศดี 

ก่อนมาประจำที่ร้านอาหารมิชลินในกรุงเทพ เชฟ Thierry Drapeau ได้สร้างสรรค์ผลงานของเขาให้สมบูรณ์ในครัวมิชลินชั้นเลิศในฝรั่งเศส รวมถึงมุ่งมั่นความสมบูรณ์แบบของปรัชญาการทำ “อาหารจากผืนดิน” ที่น่าดึงดูดใจ ที่ Les Chabettoir ร้านอาหารมิชลินสองดาวของเขาใน Saint-Sulpice-le-Verdon ลุ่มแม่น้ำลัวร์ 

เชฟ Thierry Drapeau เกิดที่เมืองน็องต์ เมืองบนฝั่งแม่น้ำลัวร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เมืองน็องต์อยู่ใกล้กับมหาสมุทรแอตแลนติก ล้อมรอบด้วยไร่องุ่นอันเลื่องชื่อและทุ่งกสิกรรมอันสมบูรณ์ของลุ่มแม่น้ำลัวร์ และเช่นเดียวกับชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ ชาวเมืองน็องต์ให้ความสำคัญกับการร่ำสำราญกับมื้ออาหารในวันอาทิตย์ ซึ่งครอบครัว Drapeau ก็ให้ความสำคัญกับค่านิยมนี้ไม่ต่างกัน

สำรองที่นั่ง บัตรกำนัล

เส้นทางชีวิตของเชฟ

ฉากร้านอาหารมิชลินกรุงเทพฯ

เซทเมนู Le Jardin 5 คอร์ส

ดื่มด่ำประสบการณ์อาหารออร์แกนิควีแกน

วัตถุดิบจากธรรมชาติ

ช่วงเวลาแห่งความหลงใหล

เชฟดอกไม้

Thierry Drapeau

ในวันอาทิตย์ เชฟ Thierry Drapeau ในวัยเด็กจะติดตามพ่อของเขาไปตลาดใกล้บ้านเพื่อซื้อหาเนื้อ ปลา ผัก สมุนไพร ชีส และไวน์ จากตลาด ในห้องครัว Drapeau คนพ่อจะปรุงอาหารอย่างกระตือรือร้น โดยใช้กรรมวิธีปรุงอาหารอย่างช้าๆ แบบดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานของการปรุงอาหารที่บ้านแบบฝรั่งเศส ท้ายที่สุด ครอบครัวจะมารวมตัวกันล้อมรอบโต๊ะอาหาร เริ่มด้วยการดื่มแอพเพอริทิฟ จากนั้นจึงรับประทานอาหารอย่างช้าๆ และผ่อนคลายร่วมกัน 

เชฟ Thierry Drapeau ได้เรียนรู้ว่ามื้ออาหารอันยอดเยี่ยมต้องเริ่มจากวัตถุดิบที่สดใหม่ซึ่งมีแหล่งที่มาโดยตรงจากสวน จากเกษตรกร จากผู้ผลิตที่มีฝีมือและผู้จัดส่งอาหารท้องถิ่น จริงๆ แล้วเขามักจะกล่าวว่าความหลงใหลในเมนูอาหารที่เน้นวัตถุดิบที่บริสุทธิ์และผ่อนคลายนั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาที่เขาอยู่ในครัวกับพ่อ 

ด้วยความหลงใหลในศิลปะการปรุงอาหารตั้งแต่ยังเด็ก เชฟ Thierry Drapeau เสาะแสวงหาที่จะทำงานในครัวระดับมิชลินสตาร์ชั้นนำของฝรั่งเศส เพื่อพัฒนาทักษะและไต่เต้าในอาชีพการปรุงอาหารอย่างรวดเร็ว เขาเคยฝึกงานอยู่ที่ Le Central ใน Guilvinec จากนั้นจึงย้ายมาที่ร้าน Le Manoir de la Comète ระดับมิชลินหนึ่งดาว ใน Saint-Sébastien sur Loire เมื่ออายุ 21 ปี เชฟThierry Drapeauได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Chef de Partie ที่ Le Bateau Ivre ร้านอาหารมิชลินสองดาวใน Le Bourget du Lac Courchevel ต่อมาจึงย้ายมาเป็นเบอร์สองของว่าที่ร้านมิชลินที่เปิดใหม่ของเชฟชื่อดัง Jean-Pierre 

หลังจากใช้เวลาทำงานในครัวมิชลินสตาร์อีกแห่งใน Aix-en-Provence เชฟ Thierry ก็กลับมาที่ลุ่มแม่น้ำลัวร์เพื่อเปิดร้าน Auberge Robinson ครัวแห่งแรกของเขา ซึ่งถูกจัดอยู่ในประเภทบิบ กูร์มองด์ในมิชลินไกด์ ปี 2544 เมื่ออายุ 35 เขามีชื่ออยู่ใน Gilles Tournadre และ Gilles Marre de Cohors ของผู้ประกอบการร้านอาหารรุ่นใหม่สุดพิเศษของยุโรป

จากการเปิด La Chabotterie ร้านอาหารแห่งที่สองของเขาซึ่งได้รับการต้อนรับมากที่สุดใน Saint-Sulpice-le-Verdon ลุ่มแม่น้ำลัวร์ เชฟ Thierry มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยได้รับดาวมิชลินสองดวงตามต้องการภายในไม่กี่ปี ที่ La Chabotterie เชฟ Thierry Drapeau นำเสนอสิ่งที่เขาเรียกว่า “อาหารจากผืนดิน” ปรัชญาที่มาพร้อมกับแนวทางการแสวงหาแหล่งอาหารท้องถิ่นที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นการแสดงถึงแตร์รัวร์ หรือสัมผัสของสถานที่ เพื่อส่งมอบรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มีชีวิตชีวา และเข้มข้น

ไม่กี่ปีก่อน เชฟ Thierry Drapeau รู้สึกสนใจทวีปเอเชีย โดยเฉพาะอาหารการกินที่มีความสมดุลของคนกรุงเทพ มีผู้คนสนใจร้านอาหารมิชลินในกรุงเทพเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา เชฟดาวมิชลินในกรุงเทพมักพิสูจน์ให้เห็นถึงความกล้าที่จะทดลองสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยส่วนผสมที่สดใหม่จากฟาร์มท้องถิ่นคุณภาพเยี่ยม ซึ่งนำเข้าจากผู้จัดหาที่ดีที่สุดในโลก สิ่งนี้ทำให้เชฟมิชลินสตาร์ในกรุงเทพลงมือสร้างสรรค์ผลงานและนวัตกรรมมากมาย ในปี 2562 มิชลินไกด์ได้จดบันทึกและแบ่งประเภทร้านอาหารมิชลินที่เกิดขึ้นเป็นคลื่นลูกแรกในกรุงเทพ ส่งผลให้กรุงเทพกลายเป็นจุดหมายปลายทางของสุดยอดอาหารของเอเชียในทันที

ปัจจุบันเชฟ Thierry ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำร้านอาหาร Signature Bangkok ซึ่งถือว่าเป็นผลงานชั้นยอดที่พร้อมบอกเล่าเรื่องราวของร้านอาหารดาวมิชลินในกรุงเทพ เมนูของห้องอาหาร Signature Bangkok สร้างสรรค์ขึ้นตามแนวทางที่เป็นสัญลักษณ์ทางการค้าของเชฟ Thierry ซึ่งก็คือ “อาหารจากผืนดิน” และยังโดดเด่นด้วยความอุดมสมบูรณ์ของดอกไม้และสมุนไพรที่รับประทานได้ นอกจากนำเสนอแตร์รัวร์และการสรรหาแหล่งที่มาเฉพาะวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากทะเลและผืนดิน เชฟเธียรี่ยังใช้ซอสเกรวีเพื่อดึงรสชาติเข้มข้นออกมา เชฟเธียรี่จัดการอาหารของเขาเช่นเดียวกันกับ vigneron หรือคนทำไวน์ที่จัดการกับไวน์ โดยแต่ละคนได้สร้างสรรค์เพื่อให้ได้ความสมดุลของรสเปรี้ยว ขม และหวาน จากนั้นจึงเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ด้วยกลิ่นของดอกไม้หรือสมุนไพร

เมื่อมาถึงห้องอาหาร Signature Bangkok บนชั้น 11 ของโรงแรมวี กรุงเทพ ระดับห้าดาว ลูกค้าที่มารับประทานอาหารจะได้รับการต้อนรับด้วยแอพเพอริทิฟในเลานจ์ที่รายล้อมด้วยวิวเส้นขอบฟ้าอันงดงามของเมืองหลวง สำหรับตัวเลือกเมนูอาหาร 4 คอร์ส หรือ 6 คอร์ส และการจับคู่ไวน์ที่เข้ากันกับอาหารและตัวเลือกอาหารออร์แกนิควีแกน จะเสิร์ฟในห้องรับประทานอาหารหลัก อาหารแต่ละเมนูจะได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเช่นเดียวกันกับการบรรเลงดนตรีซิมโฟนีที่กรรมวิธีการทำอาหารฝรั่งเศสคลาสสิกและองค์ประกอบของดอกไม้ที่รับประทานได้มาผสานกันอย่างลงตัว Signature Bangkok ตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ผ่อนคลายและได้บรรยากาศที่จะทำให้ลูกค้าผู้มาเยือนสัมผัสถึงความเพลิดเพลินที่แท้จริงของการรับประทานอาหารค่ำแบบฝรั่งเศส เช่นเดียวกับที่เชฟ Thierry เพลิดเพลินกับมื้ออาหารกับครอบครัวของเขาในทุกวันอาทิตย์

โดดเด่น มีชีวิตชีวา และนำเสนอด้วยความหรูหราละเมียดละไม เมนูอาหารอันเป็นเอกลักษณ์อาจทำให้เชฟ Thierry ก้าวขึ้นเป็นเชฟดาวมิชลินคนต่อไปของกรุงเทพก็เป็นได้

สำรองที่นั่ง